Is Gargling Red Wine the next Health Craze?
If you’re someone who enjoys having a glass of Cabernet or Merlot with dinner, hopefully you already know all about the heart-healthy benefits you’re indulging in. Red wine grapes are known for the high amounts of polyphenols they contain.
Polyphenols are the natural antioxidants that lower our risk of heart disease, they work in our gut to increase helpful bacteria, reduce harmful bacteria and prevent the inflammation that’s behind heart disease and other chronic conditions. But there’s a new and delightful twist to the story of red wine, polyphenols and your health.
Leave it to Spain, a country that grows more than ten varieties of red wine grapes, to figure out that red wine is good for much, much more than the heart — and not in a way you’d expect, either.
Red Wine’s benefits start in the mouth
A Spanish research study, just published in the Journal of Agricultural and Food Chemistry, has found that the anti-bacterial action that polyphenols have in the gut also play a part in the mouth in particular combine with healthy mouth bacteria to prevent tooth decay.
Their analysis determined that the caffeic acid and p-coumaric acid in red wine are the most effective polyphenols at preventing oral bacteria from attaching to healthy gum tissue and causing gingivitis, or gum disease. This leaves you wide open for development of cancer, arthritis, inflammation, infections, then by association, that glass of red wine just became a disease-fighting powerhouse!
To reap the best health benefits from drinking red wine, don’t make the one mistake that can negate the positive outcomes you’ve just read about…That means if you want to use red wine to fight gum disease and lower your risk for heart disease, diabetes, arthritis, kidney disease and cancer, remember to drink it moderately.
That equates to two drinks per day for men and one drink per day for women. (WHO guideline, not mine!)
One more thing …
You might be surprised to learn that you could get these protective benefits without even swallowing red wine.
When it comes to preventing cavities and gum disease, most people would turn to mouthwash before red wine as the “swish” of choice. But most mouthwashes on the market are full of chemicals, and increase the risk of diabetes.
In fact, using these commercially-produced mouthwashes to get fresh breath can also give you high blood pressure because they interfere with your body’s natural production of nitric oxide — a compound necessary for healthy arteries. So if you want to turn an inexpensive bottle of red wine into a safe, effective and tasty mouthwash, do like they do at wine tastings… Take a sip, give it a swirl across your tongue and around your teeth and gums, and just spit it out…. Strange that I noticed not one member of the Wine Club Cote d’Azur or Wine Club Royal Cliff spits any drop of this fermented grape juice out, and two glasses for men, and one for women? Also never seen!
คุณเคยได้ยินการบ้วนปากด้วยไวน์แดงไหม? ฟังดูไม่คุ้นสักเท่าไหร่
หากคุณเป็นคนที่สนุกกับการทาน Cabernet หรือ Merlot พร้อมกับอาหารเย็นหวังว่าคุณคงรู้ถึงประโยชน์ของไวน์ที่คุณดื่มด่ำอยู่ แล้วองุ่นไวน์แดงเป็นที่รู้กันดีว่ามีสารโพลีฟีนในปริมาณสูง
โพลีฟีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และทำงานในลำไส้ของเราเพื่อเพิ่มแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ลดแบคทีเรียที่เป็นอันตรายและป้องกันการอักเสบที่อยู่เบื้องหลังของการเกิดโรคหัวใจ
ประโยชน์ของไวน์แดง
สเปนซึ่งเป็นประเทศที่ปลูกองุ่นไวน์แดงมากกว่าสิบชนิดเพื่อค้นหาว่าไวน์แดงชั้นดี
การศึกษาวิจัยในสเปนที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเกษตรและเคมีอาหารพบว่าการกระทำที่ต่อต้านแบคทีเรียที่โพลีฟีนในลำไส้มีส่วนร่วมในปากโดยเฉพาะการดื่มไวน์ เป็นการป้องกันแบคทีเรียในช่องปากทำให้สุขภาพดี และป้องกันฟันผุได้อีกด้วย
การวิเคราะห์ของพวกเขาระบุว่ากรด caffeic และ p-coumaric ในไวน์แดงเป็นโพลีฟีนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการป้องกันแบคทีเรียในช่องปากจากการติดเชื้อกับเนื้อเยื่อเหงือกที่มีสุขภาพดีและทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ สิ่งนี้ทำให้เกิดโรคมะเร็ง, โรคข้ออักเสบ, การอักเสบ, การติดเชื้อ ได้
เพื่อรับผลประโยชน์ด้านสุขภาพที่ดีที่สุดจากการดื่มไวน์แดง คุณต้องการดื่มไวน์แดงเพื่อต่อสู้กับโรคเหงือกและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคเบาหวาน, โรคไขข้อ, โรคไตและมะเร็ง แต่อย่าลืมที่จะดื่มมันในระดับปานกลางเท่านั้น ควรดื่มวันละ 2 แก้ว ต่อวัน สำหรับผู้ชาย และ1 แก้ว ต่อวัน สำหรับผู้หญิง
มีอีกหนึ่งสิ่ง …
เมื่อพูดถึงการป้องกันฟันผุและโรคเหงือกผู้คนส่วนใหญ่จะหันไปน้ำยาบ้วนปากก่อนไวน์แดงในฐานะ “คน” ที่เลือก แต่น้ำยาบ้วนปากส่วนใหญ่ในตลาดนั้นเต็มไปด้วยสารเคมีและเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวาน ในความเป็นจริงการใช้น้ำยาบ้วนปากที่ผลิตในเชิงพาณิชย์เหล่านี้เพื่อรับลมหายใจที่สดใหม่อาจทำให้คุณมีความดันโลหิตสูงเนื่องจากมันจะไปรบกวนการผลิตไนตริกออกไซด์ตามธรรมชาติของร่างกายซึ่งเป็นสารประกอบที่จำเป็นต่อการมีสุขภาพดี ดังนั้นหากคุณต้องการเปลี่ยนขวดไวน์ราคาไม่แพงให้กลายเป็นน้ำยาบ้วนปากที่ปลอดภัยมีประสิทธิภาพและอร่อยทำเหมือนการชิมไวน์ … ลองจิบให้มันหมุนวนไปทั่วลิ้นของคุณและรอบ ๆ ฟันและเหงือกของคุณ ไวน์แดงจะช่วยลดแบคทีเรียในช่องปากของคุณ แถมยังทำให้เหงือกมีสุขภาพดี ฟันไม่ผุอีกด้วย
